วันพุธที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

รูปแบบของการตรวจวัดรังสี

ในการ ตรวจวัดข้อมูล ของพื้นผิวโลกหรือชั้นบรรยากาศ จากระยะไกล มักทำโดยใช้ อุปกรณ์การตรวจวัดที่ติดตั้งไว้บน สถานีติดตั้ง (platform) ซึ่งอยู่สูงจากผิวโลกพอควร เช่น เครื่องบิน บอลลูน หรือ บนดาวเทียม  ซึ่งจะทำให้มันสามารถสำรวจผิวโลกได้เป็นพื้นที่กว้าง
ในการทำงาน อุปกรณ์ดังกล่าวจะตรวจวัด ความเข้ม ของรังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (EM Wave) ที่ ออกมา จากวัตถุที่มันกำลังมองดูอยู่เป็นหลัก และบันทึกผลไว้ในหน่วย กำลังต่อพื้นที่ต่อมุมตันที่มอง หรือ Watt/m2.sr ซึ่งจะเป็น ความเข้มเฉลี่ย ของรังสี ในกรอบการมอง แต่ละครั้ง บนผิวโลก (target area)
ทั้งนี้ รังสี ที่ออกมาจากพื้นที่สำรวจ ซึ่งเครื่องวัดได้ ในแต่ละครั้ง ดังกล่าว จะมีที่มาจาก 3 แหล่ง หลัก คือ
                    1. รังสีที่ตัววัตถุแผ่ออกมาเองตามธรรมชาติ (radiation หรือ emission)
                    2. แสงอาทิตย์ที่สะท้อนออกมาจากผิวของวัตถุ (reflected sunlight) และ
                    3. รังสีสะท้อนจากตัววัตถุ ที่ส่งมาจากตัวเครื่องตรวจวัดเอง (reflected sensor’s signal)
โดยทั่วไป อุปกรณ์ตรวจวัดแต่ละตัว มักจะถูกออกแบบมาให้ตรวจวัดได้ ดีที่สุด ในช่วงความยาวคลื่นแคบ ๆ ช่วงหนึ่งเท่านั้น เรียกว่าเป็น ช่วงคลื่นของการตรวจวัด (spectral range) หรือ แบนด์ (band) ของอุปกรณ์   ซึ่งที่พบมากมักอยู่ใน ช่วง UV  ช่วงแสงขาว  ช่วงอินฟราเรด และ  ของสเปกตรัมคลื่น EM

ลักษณะของการตรวจวัด รังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า  ในระบบการตรวจวัดจากระยะไกล




คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ประกอบด้วยคลื่นไฟฟ้า(Electromagnetic Spectrum :E) และคลื่นแม่เหล็ก(M) ที่ตั้งฉากกับทิศทางการเคลื่อนที่



แถบคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ในช่วงคลื่นสั้นที่สุดตั้งแต่รังสีแกรมม่า เอกซเรย์ อัลตราไวโอเลต ช่วงคลื่นเห็นได้ อินฟราเรด ไมโครเวฟ และคลื่นวิทยุ





ตารางความยาวช่วงคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าต่างๆที่ถูกบันทึกด้วยอุปกรณ์สำรวจจากระยะ







เอกสารอ้างอิง
เอกสารประกอบการศึกษา รายวิชา 876211 การสำรวจจากระยะไกล 1 (Remote Sensing 1) โดย อาจารย์นฤมล อินทรวิเชียร
และ http://www.scitu.net/gcom/?p=784

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น